การดูแลเบื้องต้นที่สามารถทำได้แบบง่ายๆ ของแต่ละอุปกรณ์ ทั้งตัวกล้อง, เลนส์ และอื่นๆ ให้ใช้งานได้ยาวนานและอยู่กับเราตลอดไปค่ะ
จุดเบื้องต้นที่ดิฉันพูดและย้ำอยู่เสมอ คือการเก็บรักษา อันดับแรก ๆ คือ
การวางกล้อง กล้อง DSLR และอุปกรณ์ต่าง ไม่ว่าจะเลนส์ แฟลช กริ๊ป ฟิลเตอร์ ต่างก็กลัวความชื้นกันทั้งนั้น ยิ่งหน้าฝนอากาศยิ่งชื้นมากกว่าปกติ ดังนั้นการวางกล้องไม่ควรวางไว้ ณ ที่ที่มีความชื้น อาทิ ตู้เสื้อผ้า หรือตู้เหล็ก หรือไม้ ความชื้นในสถานที่ที่กล่าวมานี้จะมีมากกว่าเดิมค่ะ ซึ่งผลที่เกิดขึ้นกับอุปกรณ์ของเรา คือหลักๆ เชื้อรา จะเกิดเป็นคราบดำๆอยู่บริเวณที่เป็นกระจก ไม่ว่าจะเลนส์ หรือกระจกสะท้อนที่ตัวกล้อง
วิธีการป้องกันเบื้องต้นที่ถูกหลัก คือการหลีกเลี่ยงความชื้นเหล่านี้ คือการวางกล้องควรวางไว้ในกระเป๋ากล้องที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และต้องใส่สารกันชื้นลงในกระเป๋าสัก 1-2 ซอง (ตามความเหมาะสมของกระเป๋า) ความชื้นในกระเป๋าจะถูกดูดความชื้นด้วยสารกันชื้นออกไป หรือถ้าเกิดมีอุปกรณ์มากกว่า 4-5 ชิ้น ก็ควรเลือกอุปกรณ์ที่รองรับกับปริมาณอุปกรณ์ที่เรามีอย่าง กล่องกันความชื้นหรือตู้กันความชื้น ราคาก็มีตั้งแต่ประมาณ 2,000 หน่อยๆ ไปถึงหลักหมื่นก็มี ราคาอาจจะสูงสักนิดแต่ใช้ได้ยาวนาน พูดได้ง่ายๆว่าคุ้มค่าคุ้มราคา เพราะถ้าอุปกรณ์ตัวละหลายๆหมื่น ถึงแสน คงไม่ต้องพูดถึงเลยว่าคุ้มค่าแค่ไหน ดังนั้นการหลีกเลี่ยงความชื้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการดูแลค่ะ
ต่อไปเรามาพูดถึงการทำความสะอาดแบบง่ายที่จะดูแลกล้อง DSLR เราไปให้ยาวนานได้ งั้นขอเริ่มที่อุปกรณ์ในการทำความสะอาดกันแบบง่ายก่อน เริ่มที่ชุดอยากแนะนำคือชุดทำความสะอาดที่เป็นชุดในหนึ่งชุดนั้นจะประกอบไปด้วย
ลูกยางเป่าลม
น้ำยาเช็ดเลนส์
คัดตันบัด
ผ้าเช็ด
กระดาษเช็ดเลนส์
แปรงปัด
อุปกรณ์ในการทำความสะอาดจะมีประมาณนี้ หลักการทำความสะอาดจะแบ่งออกเป็นส่วนๆ ในการทำความสะอาด
ตัวแรกที่จะพูดถึงคือ ลูกยางเป่า หน้าที่ในการใช้งาน คือเป่าสิ่งสกปรกออกจากอุปกรณ์ต่างๆ อาทิเช่น ฝุ่น เศษหินเศษทราย ติดอยู่ ทำไมต้องใช้ลูกเป่าลมเป่า เพราะถ้าใช้ผ้าเช็ดจะทำให้มีรอยขีดขวนจากเศษสิ่งสกปรกได้ ดังนั้นลูกเป่าลมจึงต้องทำหน้าที่นี้
ต่อมาเป็น น้ำยาเช็ดเลนส์ หลังจากได้เป่าสิ่งสกปรกออกอาจจะพบคราบจากรอยนิ้วมือ ที่ติดตามกระจกเลนส์ หรือตามบอร์ดดี้ของกล้อง ก็ต้องใช้น้ำยาเทใส่ลงผ้าเช็ดเลนส์และทำการเช็ดค่อยๆ เช็ดหมุนไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อขจัดคราบสิ่งสกปรกออก แต่ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาบ่อยๆเพราะจะทำให้เลนส์พื้นผิวของกระจก เกิดการคลานเคลื่อนของสีสันได้ เนื่องจากแต่ละค่ายเลนส์ก็มีสูตรเฉาพะของตนในการคิดหาสารมาเคลือบเลนส์ของตนเอง ถ้าใครใช้เลานส์ที่ราคาสูงหน่อยการเลือกน้ำยาที่มีคุณภาพก็จำเป็นมากเช่นกันนะ
คัดตันบัด ข้อดีของอุปกรณ์ชิ้นนี้คือ การทำความสะอาดในจุดซ้อนเรนท์ ไม่ว่าจะกระจกสะท้อนภาพที่ตัวบอร์ดี้หรือในเลนส์ที่มีช่องลึกๆ ก็สามารถใช้ได้ โดยยอดน้ำยาที่คัดตันบัดก่อนเช็ด
ผ้าเช็ด ถือเป็นจุดสำคัญ เพราะถ้ามองจุดเล็กน้อยๆคือ ผ้าที่มีคุณภาพดี จะต้องดูว่ามีขลุยหรือไม่ควรเลือกผ้าที่ไม่มีขลุยนะค่ะ เพราะจะช่วยลดในเรื่องฝุ่นเล็กๆที่อาจจะทำให้ติดอยู่ที่บริเวณอุปกรณ์ ทำให้ยากที่จะทำความสะอาดได้ ดังนั้นผ้าจึงมีความสำคัญในการเลือกใช้งาน ในตลาดที่เราสามารถหาได้ก็มีตั้งแต่ผ้า ไมโครไฟเบอร์ นาโนไฟเบอร์ ก็เลือกตามความเหมาะสมของราคาล่ะกัน ขนาดของผ้าก็เลือกให้ใหญ่สักหน่อยจะได้ใช้งานถนัดมือ นอกจากคุณภาพของผ้าแล้วความสะอาดของผ้าเองก็สำคัญไม่ใช่น้อยเช่นนะ ถ้าใช้งานไปได้ซักระยะแล้วก็ควรนำไปซักทำความสะอาดกันบ้างนะ
กระดาษเช็ดเลนส์ ความสำคัญใครๆ จะคิดว่าความสำคัญของเขาน้อยมาก แต่จริงๆ มองข้ามความสำคัญไม่ได้ครับ เพราะกระดาษตัวนี้จะมีเนื้อเหมือนกระดาษลดความมัน เพราะถ้าใช้งานจะเห็นได้ชัดเลยว่าจะไม่เห็นฝุ่นติดที่หน้าเลนส์เลย แต่กระดาษจำพวกนี้จะใช้ได้แค่ครั้งเดียว แต่คุณภาพในการทำงานจะดีกว่าผ้าอีกด้วย แต่มีเคล็ดลับนิดหน่อยการซื้อกระดาษเช็ดเลนส์ไม่ควรซื้อที่เป็นซองใหญ่ หรือแพ็คที่ใหญ่เกินไปนะเนื่องจากการเปิดแพ็คเพื่อการใช้แต่ล่ะครั้งอาจจะมีพวกฝุ่นเข้าไปได้เช่นกัน ดังนั้นซื้อเป็นแพ็คเล็กแต่หลายแพ็คแทนน่าจะดีกว่านะ และใช้ให้หมดที่ละแพ็คค่อยแกะแพ็คใหม่นะ
ตัวสุดท้ายคือ แปรงปัด สำหรับอุปกรณ์ต้องใช้อย่างละเอียดอ่อนมาก เพราะถ้าปัดแรงๆ อาจทำให้หน้าเลนส์เป็นรอยขนแมวได้ ดังนั้นการใช้ต้องระมัดระวังให้ดี จุดหลักๆ ของการปัด ไม่แนะนำให้ปัดเลนส์หรือที่เป็นจุดที่มีกระจก ควรเลือกใช้งานชิ้นส่วนภายนอก อาทิเช่น บอร์ดดี้ หรือกรอบเลนส์เท่านั้น
การเลือกใช้อุปกรณ์จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการเลือกใช้ ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ เพื่อป้องกันการผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นกับวัตถุเราได้ข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือระวังเรื่องกระแทกหรือหล่น จะทำให้เสียหายหนักเลย
สำหรับหัวข้อในวันนี้ลองดูภาพประกอบ และวิธีทำความสะอาดที่ถูกวิธี
หัวข้อที่กล่าวมาในวันนี้ดิฉันคิดว่าน่าจะได้ประโยชน์ที่จะช่วยดูแลในเบื้องต้น ให้กล้องได้อยู่ใช้งานกับเราไปนานๆ แต่ในกรณีถ้าเกิดปัญหาเกิดมีฝุ่นติดที่ CCDแนะนำให้ส่งศูนย์ทำความสะอาดดีกว่า เพราะรายละเอียดจะเยอะกว่าและอุปกรณ์เครื่องมือในการใช้งานก็จะแตกต่างออกไป
ขอบคุณที่มา : http://www.digital2home.com/tips

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น